การบันทึกครั้งที่ 2วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2560เวลาเรียน 08.30 - 12.30 น.
ความรู้ที่ได้รับ
ในวันนี้เรียนเนื้อหาเกี่ยวกับ"ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ"
แบ่งได้ 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ
1.กลุ่มเด็กที่มีลักษณะทางความสามารถสูง
- เด็กปัญญาเลิศ(Gifted Child) เป็นเด็กที่มีความสามารถทางสติปัญญามีความถนัดเฉาะทางสูงกว่าเด็กในวัยเดียวกัน
2.กลุ่มเด็กที่มีลักษณะทางความบกพร่อง
1.เด็กที่บกพร่องทางสติปัญญา(Children with Intellectual Disabilities) เป็นเด็กที่มีสติปัญญาต่ำกว่าเด็กในวัยเดียวกัน มี 2 กลุ่ม คือ เด็กเรียนช้า และเด็กปัญญาอ่อน
เด็กเรียนช้า สามารถเรียนในชั้นเรียนปกติได้ เรียนล่าช้ากว่าเด็กปกติขาดทักษะในการเรียนมีระดับIQประมาณ 71-90 สาเหตุ ปัจจัยภายใน → เศรษฐกิจครอบครัว สภาวะทางอารมณ์ของคนในครอบครัว ปัจจัยภายใน → พัฒนาการช้า การเจ็บป่วย
เด็กปํญญาอ่อน ระดับสติปัญญาต่ำ มีพฤติกรรมการปรับตนบกพร่อง อาการแสดงก่อนอายุ 18
เด็กปัญญอ่อนแบ่งระดับ IQ ได้ 4 กลุ่ม
1.เด็กปัญญาอ่อนหนักมาก IQ ต่ำกว่า 20
2.เด็กปัญญาอ่อนขนาดหนัก IQ 20-34
3.เด็กปัญญาอ่อนขนาดปานกลาง IQ 35-49
4. เด็กปัญญาอ่อนขนาดน้อย IQ 50-70
ลักษณะเด็กบกพร่องทางสติปัญญา
ไม่พูด,วอกแวก,ความคิด-อารมณ์-เปลี่ยนแปลง่าย,ทำงานช้า
ดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome) เกิดจากความผิดปกติของโคโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง
2.เด็กที่บกพร่องทางการได้ยิน(Children with Hearing Impaired) มี 2 ประเภท คือ เด็กหูตึง และเด็กหูหนวก
เด็กหูตึง สามารถรับข้อมูลได้โดยใช้เครื่องช่วยฟัง จำแนกกลุ่มย่อยได้ 4 กลุ่ม
1.เด็กหูตึงระดับน้อย ได้ยินตั้งแต่ 26-40 dB
2.เด็กหูตึงระดับปานกลาง ได้ยินตั้งแต่ 41-55 dB
3.เด็กหูตึงระดับมาก ได้ยินตั้งแต่ 56-70 dB
4.เด็กหูตึงระดับรุนแรง ได้ยินตั้งแต่ 71-90 dB
เด็กหูหนวก ระดับการได้ยินตั้งแต่ 91dBขึ้นไป เครื่องช่วยฟังไม่สามารถช่วยได้ ไม่สามารถเข้าใจหรือใช้ภาษาพูดได้
3.เด็กที่บกพร่องทางการเห็น(Children with Visual Impairments) สามารถมองเห็นได้ไม่ถึง 1/10ของคนสายตาปกติ มีลานสายตากว้างไม่เกิน 30 องศา จำแนกได้ 2 ประเภทคือ เด็กตาบอดและเด็กตาบอดไม่สนิท
เด็กตาบอด ไม่สามารถมองเห็นได้เลยหรือมองเห็นบ้าง มีลานสายตาโดยเฉลี่ยอย่างสูงสุดแคบกว่า 5 งศา
เด็กตาบอดสนิท สามรถมองเห็ฯบ้างแต่ไม่เท่าเด็กปกติ มีลานสายตาโดยเฉลี่ยอย่างสูงสุดกว้างไม่เกิน 30 องศา





1.เด็กหูตึงระดับน้อย ได้ยินตั้งแต่ 26-40 dB
2.เด็กหูตึงระดับปานกลาง ได้ยินตั้งแต่ 41-55 dB
3.เด็กหูตึงระดับมาก ได้ยินตั้งแต่ 56-70 dB
4.เด็กหูตึงระดับรุนแรง ได้ยินตั้งแต่ 71-90 dB
เด็กหูหนวก ระดับการได้ยินตั้งแต่ 91dBขึ้นไป เครื่องช่วยฟังไม่สามารถช่วยได้ ไม่สามารถเข้าใจหรือใช้ภาษาพูดได้
3.เด็กที่บกพร่องทางการเห็น(Children with Visual Impairments) สามารถมองเห็นได้ไม่ถึง 1/10ของคนสายตาปกติ มีลานสายตากว้างไม่เกิน 30 องศา จำแนกได้ 2 ประเภทคือ เด็กตาบอดและเด็กตาบอดไม่สนิท
เด็กตาบอด ไม่สามารถมองเห็นได้เลยหรือมองเห็นบ้าง มีลานสายตาโดยเฉลี่ยอย่างสูงสุดแคบกว่า 5 งศา
เด็กตาบอดสนิท สามรถมองเห็ฯบ้างแต่ไม่เท่าเด็กปกติ มีลานสายตาโดยเฉลี่ยอย่างสูงสุดกว้างไม่เกิน 30 องศา






ประเมินอาจารย์ : อาจารย์สอนสนุก อาจารย์มักมีตัวอย่างมาให้ดูเสมอ มีรูปภาพต่างๆมาประกอบและอาจารย์มักหากิจกรรมมาให้เล่นเสมอ
ประเมินเพื่อน : เพื่อนทุกคนตั้งใจเรียน ให้ความร่วมมือกับอาจารย์กันทุกคน
ประเมินตนเอง : มีเนื้อหามาเรียนและจดเนื้อหาเพิ่มเติมจากที่อาจารย์สอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น